ใช้เลนส์ซูม f/2.8 อย่างมืออาชีพ (3): ลองถ่ายภาพดวงดาว


เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด

ใช้เลนส์ซูม f/2.8 อย่างมืออาชีพ (3): ลองถ่ายภาพดวงดาว

2025-05-20




0



193


เลนส์ซูม f/2.8 สว่างเพียงพอที่จะถ่ายภาพดวงดาว และมีประโยชน์อีกประการหนึ่งคือ มีความยืดหยุ่นในการจัดเฟรมภาพ

ในชุดบทความต่อเนื่อง 4 ตอนนี้ เราจะมาแบ่งปันไอเดียในการนำความสามารถของเลนส์ซูมรูรับแสงคงที่ f/2.8 มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงเคล็ดลับในการตั้งค่าอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ภาพที่ดียิ่งขึ้น เพราะเราจะทำสิ่งที่เลนส์ซูมแบบปรับรูรับแสงทำได้ไปทำไม ในเมื่อเลนส์ซูม f/2.8 ทำได้มากกว่านั้น

ในตอนที่ 3 นี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้เลนส์ซูม f/2.8 สำหรับการถ่ายภาพดวงดาว รวมถึงเคล็ดลับการถ่ายภาพบางประการ (เรื่องโดย: Chikako Yagi, Digital Camera Magazine)

บทความนี้คือตอนที่ 3 จากซีรีย์ที่มีทั้งหมด 4 ตอน คลิกที่ลิงก์เพื่ออ่านตอนอื่นๆ!
ตอนที่ 1: การทำให้ตัวแบบของคุณโดดเด่น
ตอนที่ 2: การสร้างความลึกและความมีมิติ
ตอนที่ 4: ยกระดับการถ่ายภาพทิวทัศน์ในสภาวะแสงน้อย (ฉบับภาษาอังกฤษ)

 

ในบทความนี้:

เหตุใดจึงเลือกใช้เลนส์ซูม f/2.8 สำหรับการถ่ายภาพดวงดาว

เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่ (เรียกอีกอย่างว่าเลนส์ “ความเร็วสูง” หรือ เลนส์ “ให้ความสว่าง”) จะช่วยได้เสมอเมื่อคุณถ่ายภาพในเวลากลางคืน เลนส์ดังกล่าวช่วยให้แสงเข้าและไปยังเซนเซอร์ได้มากขึ้นระหว่างช่วงเวลานั้น ซึ่งมีประโยชน์หลักสองประการสำหรับการถ่ายภาพดวงดาว:

1. คุณสามารถถ่ายภาพดวงดาวให้ออกมาเป็นจุดแสง
ดวงดาวจะเกิดเป็นเส้นแสง หากใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกินไป ซึ่งเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างช่วยให้คุณตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้เร็วขึ้นได้

2. ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ให้ต่ำลงเพื่อหลีกเลี่ยงจุดรบกวนในภาพโดยไม่ต้องลดการเปิดรับแสง

แม้ว่าจะมีเลนส์เดี่ยวมุมกว้าง f/1.4 หรือ f/1.8 ให้ใช้งานก็ตาม แต่เลนส์นี้มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนการจัดเฟรมภาพเมื่อคุณต้องถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เลนส์ซูม f/2.8 ช่วยให้คุณซูมออกเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์บนพื้นดินพร้อมกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หรือซูมเข้าไปที่ดวงดาวหรือกลุ่มดาวเฉพาะ ซึ่งนับว่าเพียงพอสำหรับการจัดการกับจุดรบกวนให้อยู่ในระดับที่มองไม่เห็น ดังนั้น อย่าลังเลที่จะนำเลนส์มุมกว้าง f/2.8 หรือเลนส์ซูมมาตรฐานมาด้วยเวลาที่คุณไปดูดาวครั้งหน้า!

ข้อควรรู้: f/2.8 เพียงพอสำหรับการลดจุดรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด

เลนส์ซูม f/2.8 ช่วยให้แสงเข้าถึงเซนเซอร์ภาพของกล้องได้อย่างเพียงพอ คุณจึงสามารถใช้ความไวแสง ISO 3200 แทน ISO 6400 หรือมากกว่า ซึ่งปกติจะต้องใช้ร่วมกับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุด f/4 ขึ้นไปได้ และระดับของจุดรบกวนที่ได้จะแตกต่างกันอย่างมาก ดังที่แสดงในตัวอย่างภาพโคลสอัพด้านบน!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #5: ความไวแสง ISO

 

เทคนิคระดับมือโปร 1: ปรับทางยาวโฟกัสเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์แบบต่างๆ

ทางยาวโฟกัสประมาณ 24 มม. เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ดวงดาว (ทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว) แต่คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันหากใช้มุมที่กว้างขึ้น

24 มม.: เน้นทิวทัศน์บนพื้นดินและดวงดาวโดยเฉพาะ

EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/2.8, 8 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ

ทางยาวโฟกัส 24 มม. ให้มุมกว้างมากพอที่จะถ่ายภาพท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล รวมถึงทิวทัศน์บนพื้นดิน เมื่อใช้เลนส์ซูม คุณจึงสามารถปรับเฟรมภาพได้อย่างยืดหยุ่น ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทดลองจนกว่าคุณจะค้นพบสมดุลที่ใช่ระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน!

15 มม.: สร้างความรู้สึกที่มีพลังด้วยท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล

EOS R5 Mark II/ RF15-35mm f/2.8L IS USM/ FL: 15 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 15 วินาที)/ ISO 1250/ WB: อัตโนมัติ

ทางยาวโฟกัสมุมกว้างพิเศษ 15 มม. ช่วยให้คุณเก็บภาพท้องฟ้าได้กว้างขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้องค์ประกอบภาพมีพลังมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเน้นถึงขนาดอันกว้างใหญ่อีกด้วย วัตถุบนพื้นโลกจะดูเล็กลงมาก ซึ่งทำให้ท้องฟ้าดูกว้างใหญ่ขึ้นไปอีกเมื่อเปรียบเทียบกัน

 

เทคนิคระดับมือโปร 2: ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่หลีกเลี่ยงการเกิดเส้นแสงดาว

เนื่องจากสถานที่สำหรับการถ่ายภาพดวงดาวนั้นมักจะมืดกว่าสถานที่สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนประเภทอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ คุณจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเปิดรับแสงเป็นระยะเวลานานขึ้น แม้ว่าจะใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างก็ตาม และเนื่องจากการหมุนของโลก การเปิดรับแสงนานเช่นนี้จึงอาจทำให้เส้นแสงดาวเบลอได้

เกือบทุกวิธีที่ใช้ในการคำนวณระยะเวลาเปิดรับแสงนานที่สุดซึ่งสามารถเลือกใช้ก่อนดวงดาวจะเริ่มสร้างเส้นแสงนั้นจะขึ้นอยู่กับทางยาวโฟกัส ยิ่งคุณใช้ทางยาวโฟกัสยาวขึ้น จะต้องใช้เวลาการเปิดรับแสงที่สั้นลง ขณะที่คุณจะมีเวลาเพิ่มขึ้นหากใช้ทางยาวโฟกัสที่สั้นลง ฉันจึงขอแนะนำให้ใช้กฎ 200:

200 ÷ ทางยาวโฟกัส = เวลาเปิดรับแสงสูงสุด

ทางยาวโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์
15 มม. 200 ÷ 15 = 13 วินาที
16 มม. 200 ÷ 16 = 13 วินาที
20 มม. 200 ÷ 20 = 10 วินาที
24 มม. 200 ÷ 24 = 8 วินาที

หากคุณใช้กล้อง APS-C การคำนวณของคุณควรคำนึงถึงคุณสมบัติการครอป 1.6 เท่า เช่น 200 ÷ (ทางยาวโฟกัส x 1.6) = เวลาเปิดรับแสงสูงสุด

ข้อควรรู้: แตกต่างจากกฎอื่นๆ อย่างไร
กฎ 200 เป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิมกว่ากฎอื่นที่คล้ายกัน เช่น กฎ 500 หรือกฎ 600 ซึ่งกฎนี้เหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำสำหรับเส้นแสง ใช้กล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูง หรือต้องการภาพที่มีความละเอียดสูงเพื่อนำมาใช้งานในด้านต่างๆ เช่น ภาพพิมพ์แกลเลอรี่ขนาดใหญ่ สำหรับการใช้งานอื่นๆ คุณสามารถใช้กฎ 500 เพื่อให้ได้เวลาเปิดรับแสงสูงสุดที่นานขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม “กฎ” เหล่านี้จะใช้เป็นแนวทางเท่านั้น แต่คุณจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าอะไรเหมาะกับคุณที่สุด!

 

อ่านเคล็ดลับและไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ดวงดาว/การถ่ายภาพดวงดาวได้ที่:
เทคนิคการถ่ายภาพดวงดาวที่ควรลองใช้กับ EOS R 
(เหมาะสำหรับกล้องซีรีย์ EOS R รุ่นอื่นๆ ด้วยเช่นกัน!)
ถ่ายภาพให้สีมีความสมดุล: ทางช้างเผือกส่องประกายระยิบระยับเหนือทุ่งหญ้าเขียวขจี
ถ่ายภาพสวยดั่งใจ: พระจันทร์และดวงดาวในทางช้างเผือกเหนือท้องทะเล
การถ่ายภาพดวงดาว: สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงเมื่อถ่ายภาพดวงดาว
หนึ่งสถานที่กับภาพสองแบบ: การถ่ายภาพประภาคารท่ามกลางแสงจันทร์และใต้ดวงดาว

 

เลนส์ซูม f/2.8 ที่แนะนำ

เลนส์ซูม f/2.8 มุมกว้าง

24 มม. คือระยะมุมกว้างของเลนส์ซูมมาตรฐาน เช่น RF24-70mm f/2.8L IS USM และ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z และเป็นระยะที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ดังที่เห็นในภาพด้านบน คุณสามารถสร้างภาพที่มีพลังมากขึ้นได้ด้วยเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษ เช่น เลนส์ RF15-35mm f/2.8L IS USM หรือ RF16-28mm f/2.8 IS STM

ซ้าย: RF15-35mm f/2.8L IS USM
ขวา: RF16-28mm f/2.8 IS STM

RF15-35mm f/2.8L IS USM เป็นเลนส์ระดับมืออาชีพที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดในสภาวะที่สมบุกสมบันที่สุด เลนส์มีโครงสร้างที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง อีกทั้งยังมีการเคลือบแบบพิเศษ คุณจึงได้ภาพที่หมดจดและคมชัดแม้จะถ่ายภาพแบบย้อนแสงก็ตาม เลนส์นี้รองรับฟิลเตอร์แบบสวมเข้าขนาด 82 มม.

RF16-28mm f/2.8 IS STM เป็นเลนส์ซูมมุมกว้าง f/2.8 ที่มีขนาดเล็กกว่าและน้ำหนักเบากว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการพกพา นอกจากคุณภาพทางออพติคอลที่ยอดเยี่ยมแล้ว เลนส์นี้ยังได้รับการซีลป้องกันสภาพอากาศ แม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับเลนส์ซีรีย์ L ก็ตาม เลนส์นี้รองรับฟิลเตอร์แบบสวมเข้าขนาด 67 มม.

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Chikako Yagi

Chikako Yagi มีอายุเพียง 20 ปีตอนที่เธอเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยตัวเองโดยใช้กล้องฟิล์ม SLR เธอออกจากงานประจำมาเป็นช่างภาพทิวทัศน์เต็มตัวในปี 2016 เธอเคยฝึกงานกับช่างภาพชื่อดังหลายราย เช่น Kiyoshi Tatsuno และ Tomotaro Ema และยังเป็นสมาชิกของชมรม Shizensou Club ซึ่งก่อตั้งโดย Kiyoshi Tatsuno และเป็นหนึ่งในชมรมช่างถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับช่างภาพฝีมือดีของชมรม Tokyo Camera Club

www.chikakoyagi.com
Instagram: @chikako_yagi


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *