บทวิจารณ์เลนส์: RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ในการถ่ายภาพธรรมชาติ


ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

บทวิจารณ์เลนส์: RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ในการถ่ายภาพธรรมชาติ

2025-05-20




0



1


ในฐานะเลนส์ไฮบริด RF70-200mm f/2.8L IS USM Z เป็นเลนส์ที่เหมาะมากสำหรับการสร้างสรรค์วิดีโอและคอนเทนต์ แต่คุณสมบัติ เช่น ท่อเลนส์ความยาวคงที่ การออกแบบการซูมภายใน และความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ ทำให้เลนส์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพธรรมชาติและสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน ช่างภาพสาว Chikako Yagi จะมาบอกเล่าถึงคุณสมบัติโปรดและความประทับใจส่วนตัว พร้อมด้วยภาพถ่ายบางส่วน (เรื่องโดย: Chikako Yagi, Digital Camera Magazine)

ในบทความนี้:

 

คุณสมบัติเด่นประการที่ 1: ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์แทบไม่มีความแตกต่างกัน

หนึ่งในข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ต่างจากเลนส์ที่ไม่ใช่เลนส์ Z คือ ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ (เทเลคอนเวอร์เตอร์) ตลอดช่วงการซูม ซึ่งคุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งนี้ช่วยให้คุณขยายทางยาวโฟกัสได้สูงสุดถึง 400 มม. ด้วย Extender RF2x

โดยปกติแล้ว การใส่กระจกเพิ่มระหว่างเลนส์กับเซนเซอร์จะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของเลนส์ในบางแง่ ดังนั้น ฉันจึงรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อไม่พบความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลย AF ยังคงทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งคุณภาพของภาพยังคงเหมือนเดิม

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z + Extender RF1.4x/ FL: 280 มม./ Aperture-priority AE (f/4, 1/250 วินาที, EV-0.3)/ ISO 1000/ WB: อัตโนมัติ

ฉันเลือกภาพนี้จากลำดับของการถ่ายภาพต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภาพของลิงตัวหนึ่งที่ฉันพบขณะถ่ายภาพบนภูเขา มันกำลังกินผลจากต้นยูอย่างเอร็ดอร่อย การใช้ EOS R5 Mark II ร่วมกับเลนส์ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ที่ยอดเยี่ยมทำให้พบและล็อคไปที่ดวงตาของลิงที่อยู่ท่ามกลางใบไม้ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมี Extender RF1.4x ติดตั้งไว้ด้วยก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้คือ ภาพถ่ายคมชัดที่แสดงสีหน้าของลิงได้อย่างชัดเจน

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z + Extender RF1.4x/ FL: 280 มม./ Aperture-priority AE (f/4, 1/320 วินาที, EV-0.7)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ภาพนี้แสดงผลเบอร์รีบนกิ่งไม้หลังฝนตก แม้ว่า Extender RF1.4x จะลดรูรับแสงกว้างสุดลงหนึ่งสต็อปเหลือเพียง f/4 แต่โบเก้ก็ยังคงสวยงาม ภาพนี้จะแยกผลเบอร์รีและหยดน้ำฝนออกจากแบ็คกราวด์ ทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น

 

คุณสมบัติเด่นประการที่ 2: คุณภาพภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีออพติคอลแบบใหม่

RF70-200mm f/2.8L IS USM Z มีการออกแบบออพติคอลแบบใหม่ที่สามารถแก้ไขความคลาดแบบต่างๆ ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่เทียบเท่าหรือดีกว่า RF70-200mm f/2.8L IS USM ฉันพบว่าเลนส์สามารถแยกรายละเอียดของตัวแบบที่มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เส้นใบ ได้เป็นอย่างดี ภาพถ่ายย้อนแสงมีความคมชัดและใสกระจ่าง ทั้งยังมีแสงแฟลร์และแสงหลอกน้อยมาก และยังคงรักษาความเป็นเลิศด้านออพติคอลไว้ในระดับสูงตลอดช่วงการซูม

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/125 วินาที, EV-0.3)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ภาพใบไม้ฤดูใบไม้ร่วงริมแม่น้ำที่ไหลผ่านหุบเขานี้ถ่ายโดยใช้ระยะสุดฝั่งเทเลโฟโต้ ซึ่งแม้จะใช้รูรับแสงสูงสุด แต่ต้นไม้ก็ยังคงมีสีสันสดใส รายละเอียดตรงกลางภาพมีความคมชัดและละเอียดสูงไปจนถึงมุมภาพ แทบจะไม่มีสีเพี้ยนให้เห็นเลย

ภาพโคลสอัพบริเวณกึ่งกลางภาพ

ภาพโคลสอัพบริเวณมุมภาพ

 

คุณสมบัติเด่นประการที่ 3: ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพแบบโคลสอัพ 0.3 เท่า

ด้วยระยะโฟกัสใกล้สุด 0.68 เมตร และกำลังขยายสูงสุด 0.3 เท่า ทำให้ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z มีประสิทธิภาพการถ่ายภาพโคลสอัพที่ค่อนข้างดีสำหรับเลนส์เทเลโฟโต้ และเมื่อใช้ร่วมกับรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.8 สามารถสร้างโบเก้ที่สวยน่าประทับใจ คุณสามารถถ่ายภาพให้ใกล้กับโฟร์กราวด์มากขึ้น และใช้โบเก้เพื่อเพิ่มเอฟเฟ็กต์เปอร์สเปคทีฟ รวมถึงถ่ายทอดอารมณ์แบบใหม่ๆ ได้อีกมากมาย

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/30 วินาที, EV+0.7)/ ISO 100/ WB: อัตโนมัติ

ภาพเห็ดขนาดจิ๋วในป่านี้ถ่ายที่ระยะ 200 มม. และ f/2.8 ที่ระยะโฟกัสใกล้สุดประมาณ 0.68 ม. เห็ดที่อยู่ในพื้นที่โฟกัสมีความคมชัดและมีความละเอียดสูง โดยบริเวณขอบที่ละเอียดโดดเด่นงดงามตัดกับโบเก้ที่นุ่มนวลและเรียบง่ายในส่วนแบ็คกราวด์

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/60 วินาที, EV-0.7)/ ISO 250/ WB: อัตโนมัติ

ภาพโคลสอัพของใยแมงมุมที่เปียกฝนนี้ถ่ายที่ระยะโฟกัสใกล้สุดประมาณ 0.68 เมตร ส่วนแบ็คกราวด์ดูเบลอเล็กน้อย จึงทำให้ภาพดูมีมิติ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มีความคมชัดและมีความละเอียดสูง แม้จะเป็นการถ่ายภาพโคลสอัพโดยใช้รูรับแสงกว้างสุดก็ตาม

 

ภาพถ่ายเพิ่มเติม

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 70 มม./ Aperture-priority AE (f/8, 1/100 วินาที, EV-1.0)/ ISO 200/ WB: อัตโนมัติ

แม้ว่าเลนส์จะมีความสามารถในการแยกรายละเอียดภาพอย่างดีเยี่ยมแม้ถ่ายด้วยค่า f/2.8 แต่เมื่อปรับลดขนาดรูรับแสงลงเหลือ f/8 จะทำให้ภาพดูคมชัดขึ้น จึงสามารถแสดงภาพทั้งหมดนี้ได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ต้นไม้เตี้ยๆ ในส่วนโฟร์กราวด์ไปจนถึงต้นเบิร์ชสีขาวบริเวณกึ่งกลางภาพและผืนป่าที่อยู่ด้านหลัง ส่งผลให้ภาพดูมีมิติความลึก

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/15 วินาที, EV-0.3)/ ISO 1250/ WB: อัตโนมัติ

ฉันพบดอกไม้เล็กๆ เหล่านี้อยู่ตามมุมถนนตอนพลบค่ำ ฉันใช้รูรับแสงกว้างสุดและถ่ายที่ระยะ 200 มม. ของเลนส์เพื่อสร้างวงกลมแสงโบเก้ขนาดใหญ่ในส่วนแบ็คกราวด์ ทำให้ภาพมีบรรยากาศชวนฝัน แม้ว่าจะถ่ายโดยใช้มือถือกล้องจากมุมต่ำ แต่ฉันสามารถได้ภาพที่คมชัด นิ่ง และมีความละเอียดสูงได้ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุดถึง 7.5 สต็อป (ที่กึ่งกลางภาพ) ผ่านระบบ IS แบบประสานการควบคุมระหว่างเลนส์กับตัวกล้อง

EOS R5 Mark II/ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z/ FL: 200 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/15 วินาที, EV-0.3)/ ISO 1250/ WB: อัตโนมัติ

เงาของใบเมเปิลตกแต่งเปลือกไม้สีขาวของต้นไม้นี้ แสงที่ส่องผ่านใบไม้ช่วยดึงเอาพื้นผิวของลำต้นไม้และความเปรียบต่างที่นุ่มนวลของเงาออกมา ซึ่งเลนส์สามารถถ่ายทอดโทนสีที่หลากหลายในภาพนี้ได้อย่างสวยงาม

 

แนวคิด: ความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์

RF70-200mm f/2.8L IS USM Z คือเลนส์ซูมไฮบริดระดับมืออาชีพรุ่นล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในกลุ่มซีรีย์ “Z” ของ Canon ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการสร้างภาพยนตร์ นอกจากเวอร์ชันสีขาวแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีเวอร์ชันสีดำที่ช่วยลดแสงสะท้อนในฉากการถ่ายทำอีกด้วย เลนส์รุ่นนี้มีขนาดเท่ากับ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z และมีน้ำหนักค่อนข้างเบาสำหรับเลนส์ 70-200mm f/2.8

การออกแบบท่อเลนส์ให้มีความยาวคงที่สำหรับการซูมภายในไม่เพียงช่วยให้ใช้งานร่วมกับกิมบอลและอุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพยนตร์ได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ความทนทานเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งในฐานะช่างถ่ายภาพนิ่งกลางแจ้ง ฉันรู้สึกพอใจกับสิ่งนี้มาก

ในกล้องที่มีอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ส่วนใหญ่ วงแหวนไอริสจะช่วยให้สามารถควบคุมขนาดรูรับแสงได้โดยตรงระหว่างการถ่ายวิดีโอ แต่สามารถนำมาใช้ในระหว่างการถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้อง EOS R1 หรือ EOS R5 Mark II ได้เช่นกัน

จุดที่โดดเด่นที่สุดของเลนส์นี้เมื่อเทียบกับ RF70-200mm f/2.8L IS USM คือ ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ ซึ่งทำงานร่วมกันได้ดีจนคุณไม่พบความแตกต่างในด้านประสิทธิภาพของ AF หรือคุณภาพของภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ เมื่อใช้ร่วมกับ Extender RF2x ระยะการเข้าถึงจะขยายได้ถึง 400 มม. จึงนับเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสำหรับใช้ร่วมกับ RF70-200mm f/2.8L IS USM และ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM เพื่อให้ครอบคลุมช่วงโฟกัสที่เท่ากัน

กล่าวได้ว่า RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ให้คุณภาพของภาพอย่างน้อยในระดับเดียวกันกับ RF70-200mm f/2.8L IS USM เมื่อตรวจสอบภาพที่ถ่าย ฉันรู้สึกว่าเลนส์นี้มีความละเอียดและความเปรียบต่างที่ยอดเยี่ยมตลอดช่วงการซูมตั้งแต่ f/2.8 โดยคุณภาพของภาพที่มุมภาพได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่า RF70-200mm f/2.8L IS USM

ซ้าย: RF70-200mm f/2.8L IS USM Z, ขวา: RF70-200mm f/2.8L IS USM, ท่อเลนส์ขยาย

ตัวเลนส์ที่หดได้ของ RF70-200mm f/2.8L IS USM ทำให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดกว่า RF70-200mm f/2.8L IS USM Z ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บางคนตัดสินใจเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ได้ยาก การมีตัวเลือกเช่นนี้ถือว่าดีมาก! แต่โดยส่วนตัว ฉันขอแนะนำให้ใช้ RF70-200mm f/2.8L IS USM Z สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องขนาดของพื้นที่จัดเก็บเป็นอันดับหนึ่ง

 

ติดตั้งบนกล้อง EOS R5 Mark II

 

RF70-200mm f/2.8L IS USM Z: ข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ

โครงสร้างเลนส์: 18 ชิ้นเลนส์ใน 15 กลุ่ม
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.49 ม. (ที่ 70 มม.), 0.68 ม. (ที่ 200 มม.)
กำลังขยายสูงสุด: 0.2 เท่า (ที่ 70 มม.), 0.3 เท่า (ที่ 200 มม.)
จำนวนม่านรูรับแสง: 11 (กลีบ)
เส้นผ่านศูนย์กลางฟิลเตอร์: φ 82 มม.
ขนาด (โดยประมาณ):  φ 88.5 มม. x 199 มม.
น้ำหนัก (โดยประมาณ):
1,115 กรัม (สีขาว ไม่รวมที่ยึดขาตั้งกล้อง)
1,110 กรัม (สีดำ ไม่รวมที่ยึดขาตั้งกล้อง)
เลนส์ฮูด: ET-88C (WIII)(ให้มาพร้อมกับเวอร์ชันสีขาว)/ ET-88C(B) (ให้มาพร้อมกับเวอร์ชันสีดำ)

เกี่ยวกับผู้เขียน

Digital Camera Magazine

นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation

Chikako Yagi

Chikako Yagi มีอายุเพียง 20 ปีตอนที่เธอเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยตัวเองโดยใช้กล้องฟิล์ม SLR เธอออกจากงานประจำมาเป็นช่างภาพทิวทัศน์เต็มตัวในปี 2016 เธอเคยฝึกงานกับช่างภาพชื่อดังหลายราย เช่น Kiyoshi Tatsuno และ Tomotaro Ema และยังเป็นสมาชิกของชมรม Shizensou Club ซึ่งก่อตั้งโดย Kiyoshi Tatsuno และเป็นหนึ่งในชมรมช่างถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับช่างภาพฝีมือดีของชมรม Tokyo Camera Club

www.chikakoyagi.com
Instagram: @chikako_yagi


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *