เคล็ดลับและบทเรียน >> เคล็ดลับและบทเรียนทั้งหมด
ใช้เลนส์ซูม f/2.8 อย่างมืออาชีพ (3): ลองถ่ายภาพดวงดาว
เลนส์ซูม f/2.8 สว่างเพียงพอที่จะถ่ายภาพดวงดาว และมีประโยชน์อีกประการหนึ่งคือ มีความยืดหยุ่นในการจัดเฟรมภาพ
ในชุดบทความต่อเนื่อง 4 ตอนนี้ เราจะมาแบ่งปันไอเดียในการนำความสามารถของเลนส์ซูมรูรับแสงคงที่ f/2.8 มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงเคล็ดลับในการตั้งค่าอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ภาพที่ดียิ่งขึ้น เพราะเราจะทำสิ่งที่เลนส์ซูมแบบปรับรูรับแสงทำได้ไปทำไม ในเมื่อเลนส์ซูม f/2.8 ทำได้มากกว่านั้น
ในตอนที่ 3 นี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้เลนส์ซูม f/2.8 สำหรับการถ่ายภาพดวงดาว รวมถึงเคล็ดลับการถ่ายภาพบางประการ (เรื่องโดย: Chikako Yagi, Digital Camera Magazine)
บทความนี้คือตอนที่ 3 จากซีรีย์ที่มีทั้งหมด 4 ตอน คลิกที่ลิงก์เพื่ออ่านตอนอื่นๆ!
– ตอนที่ 1: การทำให้ตัวแบบของคุณโดดเด่น
– ตอนที่ 2: การสร้างความลึกและความมีมิติ
– ตอนที่ 4: ยกระดับการถ่ายภาพทิวทัศน์ในสภาวะแสงน้อย (ฉบับภาษาอังกฤษ)
เหตุใดจึงเลือกใช้เลนส์ซูม f/2.8 สำหรับการถ่ายภาพดวงดาว
เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุดขนาดใหญ่ (เรียกอีกอย่างว่าเลนส์ “ความเร็วสูง” หรือ เลนส์ “ให้ความสว่าง”) จะช่วยได้เสมอเมื่อคุณถ่ายภาพในเวลากลางคืน เลนส์ดังกล่าวช่วยให้แสงเข้าและไปยังเซนเซอร์ได้มากขึ้นระหว่างช่วงเวลานั้น ซึ่งมีประโยชน์หลักสองประการสำหรับการถ่ายภาพดวงดาว:
1. คุณสามารถถ่ายภาพดวงดาวให้ออกมาเป็นจุดแสง
ดวงดาวจะเกิดเป็นเส้นแสง หากใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเกินไป ซึ่งเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างช่วยให้คุณตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ให้เร็วขึ้นได้
2. ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
คุณสามารถตั้งค่าความไวแสง ISO ให้ต่ำลงเพื่อหลีกเลี่ยงจุดรบกวนในภาพโดยไม่ต้องลดการเปิดรับแสง
แม้ว่าจะมีเลนส์เดี่ยวมุมกว้าง f/1.4 หรือ f/1.8 ให้ใช้งานก็ตาม แต่เลนส์นี้มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนการจัดเฟรมภาพเมื่อคุณต้องถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เลนส์ซูม f/2.8 ช่วยให้คุณซูมออกเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์บนพื้นดินพร้อมกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว หรือซูมเข้าไปที่ดวงดาวหรือกลุ่มดาวเฉพาะ ซึ่งนับว่าเพียงพอสำหรับการจัดการกับจุดรบกวนให้อยู่ในระดับที่มองไม่เห็น ดังนั้น อย่าลังเลที่จะนำเลนส์มุมกว้าง f/2.8 หรือเลนส์ซูมมาตรฐานมาด้วยเวลาที่คุณไปดูดาวครั้งหน้า!
ข้อควรรู้: f/2.8 เพียงพอสำหรับการลดจุดรบกวนให้เหลือน้อยที่สุด
เลนส์ซูม f/2.8 ช่วยให้แสงเข้าถึงเซนเซอร์ภาพของกล้องได้อย่างเพียงพอ คุณจึงสามารถใช้ความไวแสง ISO 3200 แทน ISO 6400 หรือมากกว่า ซึ่งปกติจะต้องใช้ร่วมกับเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างสุด f/4 ขึ้นไปได้ และระดับของจุดรบกวนที่ได้จะแตกต่างกันอย่างมาก ดังที่แสดงในตัวอย่างภาพโคลสอัพด้านบน!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
พื้นฐานเกี่ยวกับกล้อง #5: ความไวแสง ISO
เทคนิคระดับมือโปร 1: ปรับทางยาวโฟกัสเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์แบบต่างๆ
ทางยาวโฟกัสประมาณ 24 มม. เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ดวงดาว (ทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว) แต่คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันหากใช้มุมที่กว้างขึ้น
24 มม.: เน้นทิวทัศน์บนพื้นดินและดวงดาวโดยเฉพาะ
EOS R5 Mark II/ RF24-70mm f/2.8L IS USM/ FL: 24 มม./ Manual exposure (f/2.8, 8 วินาที)/ ISO 800/ WB: อัตโนมัติ
ทางยาวโฟกัส 24 มม. ให้มุมกว้างมากพอที่จะถ่ายภาพท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล รวมถึงทิวทัศน์บนพื้นดิน เมื่อใช้เลนส์ซูม คุณจึงสามารถปรับเฟรมภาพได้อย่างยืดหยุ่น ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทดลองจนกว่าคุณจะค้นพบสมดุลที่ใช่ระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน!
15 มม.: สร้างความรู้สึกที่มีพลังด้วยท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล
EOS R5 Mark II/ RF15-35mm f/2.8L IS USM/ FL: 15 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 15 วินาที)/ ISO 1250/ WB: อัตโนมัติ
ทางยาวโฟกัสมุมกว้างพิเศษ 15 มม. ช่วยให้คุณเก็บภาพท้องฟ้าได้กว้างขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้องค์ประกอบภาพมีพลังมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเน้นถึงขนาดอันกว้างใหญ่อีกด้วย วัตถุบนพื้นโลกจะดูเล็กลงมาก ซึ่งทำให้ท้องฟ้าดูกว้างใหญ่ขึ้นไปอีกเมื่อเปรียบเทียบกัน
เทคนิคระดับมือโปร 2: ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่หลีกเลี่ยงการเกิดเส้นแสงดาว
เนื่องจากสถานที่สำหรับการถ่ายภาพดวงดาวนั้นมักจะมืดกว่าสถานที่สำหรับการถ่ายภาพกลางคืนประเภทอื่นๆ โดยส่วนใหญ่ คุณจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะเปิดรับแสงเป็นระยะเวลานานขึ้น แม้ว่าจะใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างก็ตาม และเนื่องจากการหมุนของโลก การเปิดรับแสงนานเช่นนี้จึงอาจทำให้เส้นแสงดาวเบลอได้
เกือบทุกวิธีที่ใช้ในการคำนวณระยะเวลาเปิดรับแสงนานที่สุดซึ่งสามารถเลือกใช้ก่อนดวงดาวจะเริ่มสร้างเส้นแสงนั้นจะขึ้นอยู่กับทางยาวโฟกัส ยิ่งคุณใช้ทางยาวโฟกัสยาวขึ้น จะต้องใช้เวลาการเปิดรับแสงที่สั้นลง ขณะที่คุณจะมีเวลาเพิ่มขึ้นหากใช้ทางยาวโฟกัสที่สั้นลง ฉันจึงขอแนะนำให้ใช้กฎ 200:
200 ÷ ทางยาวโฟกัส = เวลาเปิดรับแสงสูงสุด
ทางยาวโฟกัส | ความเร็วชัตเตอร์ |
15 มม. | 200 ÷ 15 = 13 วินาที |
16 มม. | 200 ÷ 16 = 13 วินาที |
20 มม. | 200 ÷ 20 = 10 วินาที |
24 มม. | 200 ÷ 24 = 8 วินาที |
หากคุณใช้กล้อง APS-C การคำนวณของคุณควรคำนึงถึงคุณสมบัติการครอป 1.6 เท่า เช่น 200 ÷ (ทางยาวโฟกัส x 1.6) = เวลาเปิดรับแสงสูงสุด
ข้อควรรู้: แตกต่างจากกฎอื่นๆ อย่างไร
กฎ 200 เป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิมกว่ากฎอื่นที่คล้ายกัน เช่น กฎ 500 หรือกฎ 600 ซึ่งกฎนี้เหมาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีค่าความคลาดเคลื่อนต่ำสำหรับเส้นแสง ใช้กล้องที่มีจำนวนพิกเซลสูง หรือต้องการภาพที่มีความละเอียดสูงเพื่อนำมาใช้งานในด้านต่างๆ เช่น ภาพพิมพ์แกลเลอรี่ขนาดใหญ่ สำหรับการใช้งานอื่นๆ คุณสามารถใช้กฎ 500 เพื่อให้ได้เวลาเปิดรับแสงสูงสุดที่นานขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม “กฎ” เหล่านี้จะใช้เป็นแนวทางเท่านั้น แต่คุณจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าอะไรเหมาะกับคุณที่สุด!
อ่านเคล็ดลับและไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ดวงดาว/การถ่ายภาพดวงดาวได้ที่:
– เทคนิคการถ่ายภาพดวงดาวที่ควรลองใช้กับ EOS R
(เหมาะสำหรับกล้องซีรีย์ EOS R รุ่นอื่นๆ ด้วยเช่นกัน!)
– ถ่ายภาพให้สีมีความสมดุล: ทางช้างเผือกส่องประกายระยิบระยับเหนือทุ่งหญ้าเขียวขจี
– ถ่ายภาพสวยดั่งใจ: พระจันทร์และดวงดาวในทางช้างเผือกเหนือท้องทะเล
– การถ่ายภาพดวงดาว: สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงเมื่อถ่ายภาพดวงดาว
– หนึ่งสถานที่กับภาพสองแบบ: การถ่ายภาพประภาคารท่ามกลางแสงจันทร์และใต้ดวงดาว
เลนส์ซูม f/2.8 ที่แนะนำ
เลนส์ซูม f/2.8 มุมกว้าง
24 มม. คือระยะมุมกว้างของเลนส์ซูมมาตรฐาน เช่น RF24-70mm f/2.8L IS USM และ RF24-105mm f/2.8L IS USM Z และเป็นระยะที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ดังที่เห็นในภาพด้านบน คุณสามารถสร้างภาพที่มีพลังมากขึ้นได้ด้วยเลนส์ซูมมุมกว้างพิเศษ เช่น เลนส์ RF15-35mm f/2.8L IS USM หรือ RF16-28mm f/2.8 IS STM
ซ้าย: RF15-35mm f/2.8L IS USM
ขวา: RF16-28mm f/2.8 IS STM
RF15-35mm f/2.8L IS USM เป็นเลนส์ระดับมืออาชีพที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดในสภาวะที่สมบุกสมบันที่สุด เลนส์มีโครงสร้างที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพกลางแจ้ง อีกทั้งยังมีการเคลือบแบบพิเศษ คุณจึงได้ภาพที่หมดจดและคมชัดแม้จะถ่ายภาพแบบย้อนแสงก็ตาม เลนส์นี้รองรับฟิลเตอร์แบบสวมเข้าขนาด 82 มม.
RF16-28mm f/2.8 IS STM เป็นเลนส์ซูมมุมกว้าง f/2.8 ที่มีขนาดเล็กกว่าและน้ำหนักเบากว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการพกพา นอกจากคุณภาพทางออพติคอลที่ยอดเยี่ยมแล้ว เลนส์นี้ยังได้รับการซีลป้องกันสภาพอากาศ แม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับเลนส์ซีรีย์ L ก็ตาม เลนส์นี้รองรับฟิลเตอร์แบบสวมเข้าขนาด 67 มม.
เกี่ยวกับผู้เขียน
นิตยสารรายเดือนที่เชื่อว่าความสุขของการถ่ายภาพจะยิ่งเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ถ่ายภาพได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นต่างๆ ของกล้องมากยิ่งขึ้น นิตยสารเล่มนี้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกล้องรุ่นใหม่ๆ รวมถึงคุณสมบัติของกล้องและนำเสนอเทคนิคการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย
จัดพิมพ์โดย Impress Corporation
Chikako Yagi มีอายุเพียง 20 ปีตอนที่เธอเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยตัวเองโดยใช้กล้องฟิล์ม SLR เธอออกจากงานประจำมาเป็นช่างภาพทิวทัศน์เต็มตัวในปี 2016 เธอเคยฝึกงานกับช่างภาพชื่อดังหลายราย เช่น Kiyoshi Tatsuno และ Tomotaro Ema และยังเป็นสมาชิกของชมรม Shizensou Club ซึ่งก่อตั้งโดย Kiyoshi Tatsuno และเป็นหนึ่งในชมรมช่างถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2013 เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับช่างภาพฝีมือดีของชมรม Tokyo Camera Club
www.chikakoyagi.com
Instagram: @chikako_yagi