EOS C400 กับ EOS C80: ยกระดับวิสัยทัศน์ด้านภาพยนตร์ของคุณ


ผลิตภัณฑ์ >> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

EOS C400 กับ EOS C80: ยกระดับวิสัยทัศน์ด้านภาพยนตร์ของคุณ

2025-04-22




0



2


การเปลี่ยนจากกล้องมิเรอร์เลสแบบไฮบริดไปสู่ระบบ Video-centric ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรด แต่เป็นวิวัฒนาการที่สำคัญ ซึ่งกล้อง EOS C80 และ EOS C400 ก็สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยเครื่องมือที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อแก้ไขข้อจำกัดที่มักเกิดขึ้นกับระบบไฮบริด

กล้องสองรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติที่เหนือกว่าระบบไฮบริด ช่วยให้นักสร้างสรรค์สามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพเหนือระดับ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อิสระ ผู้กำกับงานโฆษณา หรือผู้ที่ปฏิบัติงานในสตูดิโอ กล้องสองรุ่นนี้จะเปิดโลกสู่ความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในบทความนี้:

ทำไมถึงควรเปลี่ยนมาใช้กล้องสำหรับถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ

กล้องมิเรอร์เลสแบบไฮบริดนั้นใช้งานได้หลายรูปแบบ แต่มักจะมาพร้อมกับข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบในลักษณะ Video-centric ที่มีข้อจำกัดเชิงการยศาสตร์ ความสามารถในการบันทึกที่จำกัด และเวิร์กโฟลว์ที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพ ล้วนส่งผลให้มีจุดอ่อนในกระบวนการผลิตงาน

กล้องถ่ายภาพยนตร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษอย่าง EOS C80 และ EOS C400 ปราศจากข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยเครื่องมือที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้สร้างภาพยนตร์โดยเฉพาะ กล้องสองรุ่นนี้มีคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ประสิทธิภาพเซนเซอร์สูงสุด เวิร์กโฟลว์ระดับมืออาชีพที่ราบรื่น และความทนทานระดับสูง จึงเหมาะสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวเป็นที่สุด

 

1. การออกแบบและความสะดวกในการพกพา: ออกแบบมาให้เหมาะกับงาน

EOS C80:
กล้อง EOS C80 พลิกโฉมการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นครบครัน เช่น ฟิลเตอร์ ND ในตัว ช่องรับสัญญาณ XLR ระดับมืออาชีพ และระบบระบายความร้อนขั้นสูง ขณะที่ยังคงมีน้ำหนักเบา ต่างจากระบบไฮบริดซึ่งมักให้ความสำคัญกับความสะดวกในการพกพา แต่ต้องแลกด้วยการขาดคุณสมบัติระดับมืออาชีพ กล้อง EOS C80 มีเมาท์ RF ที่ใช้งานร่วมกับเลนส์ได้หลากหลายรุ่น จึงเป็นตัวเลือกอเนกประสงค์สำหรับนักสร้างสรรค์ที่เดินทางบ่อย รวมถึงผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีและช่างภาพวิดีโอในงานอีเวนต์

 

EOS C400:
กล้อง EOS C400 ทั้งสะดวกในการพกพา และออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตผลงานในระดับที่ใหญ่ขึ้น โครงสร้างที่ทนทานและตัวเชื่อมต่อ DIN ที่เพิ่มเข้ามาช่วยรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมหลายรูปแบบ ทั้ง G-LOCK/การซิงค์/การส่งสัญญาณกลับ รวมถึงการเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับกริปและจอภาพ ตัวเลือกอินเทอร์เฟซเหล่านี้ทำให้ EOS C400 เป็นกล้องที่ไว้ใจได้ โดยมีข้อได้เปรียบเหนือกว่า EOS C80 เล็กน้อยสำหรับการถ่ายทำในสตูดิโอ การถ่ายทำรายการสดแบบหลายกล้อง และการถ่ายทำฉากที่ซับซ้อน โครงสร้างที่ทนทานและระบบควบคุมทางกายภาพที่ครบครัน ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากล้องจะรับมือกับสภาพแวดล้อมในการถ่ายทำที่ท้าทายได้

รุ่น

EOS C80

EOS C400

ขนาด

160 x 137.4 x 116มม.

142 x 135 x 135มม.

น้ำหนักt

1300 ก.

1540 ก.

 

2.คุณภาพและความละเอียดของภาพ: ยกระดับมาตรฐานภาพยนตร์

EOS C80:
กล้อง EOS C80 มาพร้อมเซนเซอร์ CMOS ฟูลเฟรมแบบซ้อนที่รับแสงจากด้านหลังความละเอียด 6K ที่สร้างสรรค์ภาพที่มีคุณภาพสูงได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยระบบการบันทึกเป็นไฟล์ RAW ในตัว ความละเอียด 6K ที่ความเร็วสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที และความละเอียด 4K ที่ความเร็วสูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที ทำให้กล้องรุ่นนี้มีความยืดหยุ่นและใช้งานด้านภาพยนตร์ได้หลายรูปแบบ ระบบ ISO ที่มีค่าพื้นฐาน 3 ระดับ ได้แก่ ISO 800, 3200 และ 12800 (ใน Canon Log 2/3) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสภาพแสงที่หลากหลาย จึงมั่นใจได้ว่าภาพจะมีช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยม เสียงรบกวนน้อย และสีสันสดใสแบบภาพยนตร์ 
ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์อิสระและนักสร้างคอนเทนต์

รู้จักความแตกต่างระหว่าง Canon Log 2 กับ Log 3 ได้ใน:
คำถามที่พบบ่อยในการถ่ายวิดีโอ: Canon Log คืออะไร

 

EOS C400:
กล้อง EOS C400 ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับการผลิตงานระดับไฮเอนด์ โดยใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียด 6K เช่นเดียวกับ EOS C80 แต่เพิ่มความสามารถด้วยระบบการบันทึกเป็นไฟล์ RAW ในตัว ความละเอียด 6K ที่ความเร็วสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที และความละเอียด 4K ที่ความเร็วสูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที ระบบ ISO ที่มีค่าพื้นฐาน 3 ระดับ (ISO 800, 3200 และ 12800) มอบความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นในสภาพแสงที่ท้าทาย รับประกันว่าจะได้ภาพที่คมชัดและถ่ายทอดโทนสีได้อย่างยอดเยี่ยม กล้อง EOS C400 จะปฏิวัติวงการด้วยผลงานภาพยนตร์ที่สมจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องยาว โฆษณา หรือการถ่ายทำในสตูดิโอ

 

ทั้ง EOS C80 และ EOS C400 ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรมแบบซ้อนที่รับแสงจากด้านหลังและมีสัญญาณรบกวนต่ำ พร้อมด้วยช่วงการรับแสง 16 stop และโหมด ISO พื้นฐานสี่โหมดเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ความสามารถในการบันทึกไฟล์รูปแบบต่าง ๆ

รุ่น

EOS C80

EOS C400

ขนาดเซนเซอร์ ฟูลเฟรม ความละเอียด 6K พร้อมโหมดการถ่ายภาพFแบบ Super 35mm
ค่า ISO พื้นฐาน

800/3200/12800

ไฟล์ RAW ความละเอียด 6K 30 เฟรมต่อวินาที 60 เฟรมต่อวินาที
ความละเอียด 4K 120 เฟรมต่อวินาที
ความละเอียด 2K 180 เฟรมต่อวินาที

 

3. การเชื่อมต่อและเวิร์กโฟลว์: ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพ

EOS C80:
กล้อง EOS C80 มาพร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น ช่องใส่การ์ด SD แบบคู่ ช่องส่งสัญญาณ HDMI และการเชื่อมต่ออีเทอร์เน็ต ช่วยให้มั่นใจได้ว่าขั้นตอนการผลิตจะราบรื่น การบันทึกไฟล์หลายรูปแบบพร้อมกันช่วยเสริมความสามารถและความยืดหยุ่น ทั้งยังมีระบบจัดการสื่อที่มีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับโครงการที่มีกำหนดเวลาเร่งด่วนหรือมีทรัพยากรจำกัด

 

EOS C400:
กล้อง EOS C400 ยกระดับการเชื่อมต่อด้วยเอาต์พุต 12G-SDI หลายช่องทาง, ไทม์โค้ดขาเข้า/ขาออก, Genlock, ช่องใส่การ์ด CFexpress 1 ช่องและช่องใส่การ์ด SD 1 ช่อง และเอาต์พุต RAW สำหรับอุปกรณ์บันทึกภายนอก ซึ่งผสานเข้ากับเวิร์กโฟล์วระดับไฮเอนด์ได้อย่างราบรื่น จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการถ่ายทำที่ใช้กล้องหลายตัว งานอีเวนต์สด และสภาพแวดล้อมแบบเสมือนจริง

รุ่น

EOS C80

EOS C400

ช่องใส่การ์ด SD 2 ช่อง CFexpress 1 ช่อง
SD 1 ช่อง
เมาท์เลนส์

เมาท์ RF

รองรับเมาท์ PL ผ่านอะแดปเตอร์เมาท์ PL-RF

รองรับเมาท์ EF ผ่านอะแดปเตอร์ EF-EOS R

การบันทึก

รุ่น

EOS C80

EOS C400

รูปแบบการบันทึก

Cinema RAW Light
XF-AVC
XF-HEVC S
XF-AVC S

ระบบบันทึกข้อมูลในหน่วยความจำสองช่อง (พร้อมกัน)

มี

ระบบบันทึกไฟล์หลายรูปแบบพร้อมกัน

มี

อินพุต / เอาต์พุต

รุ่น

EOS C80

EOS C400

HDMI

Type-A

USB

USB Type-C
(รองรับ HOST/แหล่งจ่ายไฟ)
ไมโครโฟน / หูฟัง

มี/มี

รีโมท (φ 2.5 มม.)

มี

อีเทอร์เน็ต (RJ45)

มี

Wi-Fi

มี

เอาต์พุต SDI

มี

จุดเชื่อมต่ออเนกประสงค์

มี

ตัวเชื่อมต่อเลนส์

ไม่มี

ขั้วต่อ 12 พิน 1 ช่อง

จอภาพ

ไม่มี

มี

การแสดงภาพในจอวิดีโอ

ไม่มี

มี

 ผ่านทาง USB Type-C สำหรับจอ LCD ที่มีมาให้

ผ่านทางเอาต์พุต 3G-SDI (BNC)

กริป

ไม่มี

มี (ผ่านทาง USB Type-C สำหรับการเชื่อมต่อกับกริปที่มีมาให้)

ไทม์โค้ด

มี

Genlock

ไม่มี

มี (ตัวเชื่อมต่อ DIN)

การซิงค์

ไม่มี

มี (ตัวเชื่อมต่อ DIN)

ช่องรับสัญญาณกลับ

ไม่มี

มี (ตัวเชื่อมต่อ DIN)

 

4. การยศาสตร์และการปรับแต่งตามความต้องการ: ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างภาพยนตร์โดยเฉพาะ

EOS C80:
ดีไซน์ที่ใช้งานง่ายของ EOS C80 ช่วยให้นักสร้างสรรค์สามารถเปลี่ยนจากระบบไฮบริดไปใช้กล้องสำหรับถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะได้อย่างราบรื่น ระบบควบคุมที่เรียบง่ายและโพรไฟล์ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับผู้ใช้ที่ชำนาญ เมนูแบบสัมผัสและเครื่องมือติดตามผลในตัวช่วยให้ปรับแต่งแบบทันทีได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถจดจ่อกับการสร้างสรรค์ผลงานโดยไม่ต้องพะวงกับอุปสรรคทางเทคนิค กล้อง EOS C80 ที่มีขนาดกะทัดรัดและมีฟิลเตอร์ ND ในตัวนั้นออกแบบมาเพื่อความคล่องตัว จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักสร้างสรรค์ที่เดินทางบ่อย

 

EOS C400:
กล้อง EOS C400 ยกระดับความอเนกประสงค์ไปอีกขั้นด้วยดีไซน์แบบโมดูลาร์และตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ และรองรับตาราง Look-up แบบกำหนดเอง เวิร์กโฟล์ว HDR ขั้นสูง และการตั้งค่าที่ผู้ใช้สามารถกำหนดได้หลากหลายแบบ คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้นักถ่ายทำภาพยนตร์สามารถปรับแต่งกล้องให้เหมาะกับการผลิตผลงานแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องยาว การถ่ายทำโฆษณา หรือการถ่ายทำรายการสด กล้อง EOS C400 สามารถปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและสไตล์การถ่ายทำแบบต่าง ๆ ทั้งยังมีระบบควบคุมทางกายภาพที่ครบครันและโครงสร้างที่แข็งแรง จึงเป็นเครื่องมือที่ไว้ใจได้สำหรับทุกโปรเจกต์

 

ใครที่เหมาะกับการอัปเกรดครั้งนี้

EOS C80:

  • นี่คือการอัปเกรดที่ลงตัวสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์อิสระ ทีมสร้างภาพยนตร์ขนาดเล็ก และช่างภาพวิดีโองานอีเวนต์ที่พร้อมจะเปลี่ยนจากระบบไฮบริด
  • เหมาะสำหรับนักสร้างสรรค์ที่ต้องการสร้างผลงานระดับมืออาชีพโดยใช้อุปกรณ์ที่กะทัดรัดและอเนกประสงค์
  • เหมาะสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการโซลูชันครบวงจรที่ไว้ใจได้สำหรับโปรเจกต์ที่เร่งรีบ

 

EOS C400:

  • ออกแบบมาสำหรับมืออาชีพผู้ชำนาญที่ต้องการความสามารถในการเชื่อมต่อ ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง และภาพระดับภาพยนตร์
  • มีเครื่องมือที่ครบครันสำหรับการผลิตผลงานที่มีงบประมาณสูง ทั้งภาพยนตร์เรื่องยาว โฆษณา และการถ่ายทำในสตูดิโอ.
  • เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการเครื่องมือที่พร้อมสำหรับอนาคต เมื่อความใฝ่ฝันในทางสร้างสรรค์สูงขึ้นเรื่อย ๆ

 

สรุป: การพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

กล้อง EOS C80 และ EOS C400 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดจากระบบไฮบริด เพราะเป็นเครื่องมือที่จะมาพลิกโฉมการเล่าเรื่องในระดับมืออาชีพ กล้องสองรุ่นนี้ตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของผู้สร้างภาพยนตร์ และช่วยให้นักสร้างสรรค์สามารถผลิตภาพยนตร์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพได้อย่างเหนือชั้น

ไม่ว่าคุณจะเลือกกล้อง EOS C80 ที่พกพาสะดวกและอเนกประสงค์ หรือกล้อง EOS C400 ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ สิ่งที่คุณได้นั้นไม่ใช่แค่การอัปเกรดอุปกรณ์ แต่คือการยกระดับงานสร้างสรรค์ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ของ Canon จะช่วยให้คุณบรรลุวิสัยทัศน์ด้านภาพยนตร์ได้อย่างแน่นอน


อ่านเพิ่มเติม

คุณตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ได้แล้ว แต่คุณเตรียมความพร้อมในขั้นตอนก่อนการผลิตผลงานครบทุกด้านหรือยัง ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและคำแนะนำจากมืออาชีพในอุตสาหกรรมนี้

เพิ่มพูน (หรือทบทวน) ความรู้ทางเทคนิคไปกับบทความเหล่านี้


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *