EOS R50 V และ PowerShot V1 คือกล้องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และพกพาสะดวกรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Canon ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายวล็อก วิดีโอ และสร้างสรรค์คอนเทนต์ EOS R50 V เป็นกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ในขณะที่ PowerShot V1 เป็นกล้องคอมแพคที่มีเลนส์ซูมในตัว แต่นอกเหนือไปจากนั้น กล้องทั้งสองรุ่นดูจะมีคุณสมบัติที่เหมือนกันหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม กล้องเหล่านี้แตกต่างกันมากกว่าที่คุณคิด ในบทความนี้ เราจะมาดูรายละเอียดของความแตกต่างหลักๆ เพื่อให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น!
R50 V | V1 | |
ความสะดวกในการพกพา | ★★★★ | ★★★★★ |
ความเรียบง่าย | ★★★★ | ★★★★★ |
เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น (โดยรวม) | ★★★★ | ★★★★★ |
ความสามารถในการติดตั้งอุปกรณ์เสริม | ★★★★★ | ★★★★ |
โหมดสร้างสรรค์ | ★★★★★ | ★★★★ |
การสตรีมสด | ★★★★★ | ★★★★ |
เสียง | ★★★★★ | ★★★★ |
1. ขนาดและความสะดวกในการพกพา
หากดูเฉพาะขนาดของบอดี้กล้อง PowerShot V1 และ EOS R50 V ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อติดตั้งเลนส์คิท RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ หนัก 180 กรัมลงไปบนกล้อง EOS R50 V ความยาวจะเพิ่มขึ้นประมาณ 62 มม. และทำให้น้ำหนักรวมเพิ่มขึ้นเป็น 550 กรัมโดยประมาณ ซึ่งแตกต่างจากกล้อง PowerShot V1 เพียงราว 124 กรัมเท่านั้น เทียบได้กับน้ำหนักของแบตเตอรี่ NiMH AA แบบชาร์จได้ราว 4 ก้อน
2. เลนส์
เลนส์ในตัวกับเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้
เลนส์ซูมที่มีอยู่ในตัวกล้อง PowerShot V1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกล้องออลอินวันแบบฟังก์ชันครบจบในตัว ในขณะที่ EOS R50 V ให้คุณเปลี่ยนเลนส์ได้ จึงถ่ายภาพในฉากเดียวกันออกมาได้หลากหลายสไตล์ คุณสามารถทำได้แม้กระทั่งถ่ายวิดีโอ 3 มิติที่สมจริงและมีคุณภาพสูงด้วยเลนส์พิเศษอย่าง RF-S3.9 f/3.5 STM Dual Fisheye
ช่วงโฟกัสตั้งแต่แกะกล่อง
ทั้ง PowerShot V1 และ EOS R50 V พร้อมเลนส์คิท RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ มีช่วงโฟกัสครอบคลุมตั้งแต่ระยะมุมกว้างอัลตร้าไวด์ไปจนถึงระยะมาตรฐาน ช่วงกว้างเท่านี้เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ วิดีโอแบบเซลฟี่ วล็อก และภาพผลิตภัณฑ์แบบโคลสอัพ รวมถึงการถ่ายภาพทั่วไป
อย่างไรก็ตาม กล้อง PowerShot V1 มีขอบเขตภาพที่กว้างกว่า RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ และยังซูมเข้าได้มากกว่าด้วย โหมดครอป 1.4 เท่า* ของกล้องช่วยให้คุณถ่ายภาพนิ่งด้วยขอบเขตภาพเทียบเท่า 23-71 มม. ของกล้องฟูลเฟรม ซึ่งนับว่ามีประโยชน์มากหากคุณต้องใช้ทุกอย่างที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด!
ช่วงโฟกัสเทียบเท่าฟูลเฟรมเป็นดังนี้
R50 V kit (พร้อมเลนส์คิท RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ) |
V1 | |
ภาพนิ่ง (เทียบเท่าฟูลเฟรม ) |
22.4-48 มม. | 16-50 มม. 23-71 มม. (โหมดครอป 1.4 เท่า*) |
วิดีโอ (เทียบเท่าฟูลเฟรม ) |
22.4-48 มม. | 17-52 มม. |
*บันทึกโดยใช้เซนเซอร์บางส่วนเท่านั้น ภาพที่ได้มีขนาดเล็กกว่า: ประมาณ 4032 x 2688 หรือ 10.8 ล้านพิกเซล
การเปรียบเทียบระยะสุดฝั่งมุมกว้าง
การเปรียบเทียบระยะสุดฝั่งยาว
การซูมลื่นไหลหรือไม่
เลนส์คิท RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ มีระบบซูมแบบมอเตอร์ที่ช่วยให้การซูมราบรื่น สม่ำเสมอ และให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถควบคุมการซูมได้ด้วยก้านซูมบน EOS R50 V เช่นเดียวกับการซูมด้วยกล้องคอมแพคอย่าง PowerShot V1 หรือเพียงแค่หมุนวงแหวนซูมง่ายๆ ขณะถ่ายวิดีโอตัวเอง คุณสามารถตั้งค่าความเร็วในการซูมที่ “เร็ว” หรือ “ช้า” ได้ โดยสามารถปรับความเร็วอย่างละเอียดได้ถึง 15 ระดับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ ได้ที่:
RF-S14-30mm f/4-6.3 IS STM PZ: เลนส์ RF Power Zoom รุ่นแรกของ Canon
3. การควบคุม
กล้อง EOS R50 V มีการออกแบบที่โดดเด่นเป็นพิเศษเพื่อการถ่ายวิดีโอซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ถ่ายวิดีโอเป็นส่วนใหญ่ วงแหวนเลือกโหมดของกล้องสามารถสลับโหมดถ่ายวิดีโอได้หลากหลาย และมีปุ่มโดยเฉพาะที่ช่วยให้เข้าถึงโหมดสีและการสตรีมสดได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ต้องเข้าถึงโหมดถ่ายภาพนิ่งจากหน้าจอสัมผัส
กล้อง PowerShot V1 มีการออกแบบสไตล์ดั้งเดิมมากกว่า โดยมีวงแหวนเลือกโหมด PASM แบบคลาสสิก และสวิตช์สลับโหมดถ่ายภาพและวิดีโอ
4. การถ่ายวิดีโอแนวตั้งและการสตรีมสด
4. การถ่ายวิดีโอแนวตั้งและการสตรีมสด
EOS R50 V มีคุณสมบัติสำหรับการถ่ายวิดีโอแนวตั้งและการสตรีมสดมากกว่า PowerShot V1:
- และมีตัวยึดขาตั้งกล้องแนวตั้งเพิ่มเติมจากตัวยึดที่ฐานตามปกติ
- ปุ่มลัดสำหรับการสตรีมสด
- ปุ่ม “REC” ที่สองที่ด้านหน้าเพื่อการเข้าถึงที่ง่ายดายขณะที่คุณบันทึกภาพตนเอง
- รองรับการสตรีมสดแบบครอปภาพที่ 4K 60p (แบบครอป) เมื่อใช้เป็นเว็บแคมโดยการเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C หรือ HDMI กับสวิตเชอร์ (PowerShot V1: สูงสุด Full HD 30p)
- รองรับการสตรีมสดแบบใช้กล้องหลายตัวผ่านแอปสตรีม Live Switcher Mobile
ในขณะที่กล้อง PowerShot V1 จะสามารถสตรีมสดได้เมื่อเชื่อมต่อกับ LAN แบบไร้สายโดยไม่ต้องใช้พีซี
วิธีสตรีมสด/สนทนาทางวิดีโอ
R50 V | V1 | |
จากกล้องโดยตรง (ไม่ใช้พีซี) | × | ✓ |
ผ่านพีซี + USB-C (เชื่อมต่อ UVC/UAC) |
ภาพแบบครอป 4K 60p | Full HD 30p |
แอป Camera Connect | ✓ | ✓ |
HDMI | ✓ | × |
แอป Live Switcher Mobile (กล้องหลายตัว) |
× | ✓ |
5. ระยะเวลาการบันทึกและการจัดการความร้อน
5. ระยะเวลาการบันทึกและการจัดการความร้อน
กล้องทั้งสองรุ่นออกแบบมาให้มีระบบจัดการความร้อนที่ช่วยให้สามารถบันทึกการสตรีมสด การสัมภาษณ์ที่ใช้เวลานาน และคอนเทนต์ยาวๆ รูปแบบอื่นได้ EOS R50 V มีโครงสร้างบอดี้ภายในที่ทำจากแมกนีเซียมหล่อขึ้นรูปซึ่งมีกลไกการกระจายความร้อนที่ดีเยี่ยมเช่นเดียวกับกล้องในระบบ Cinema EOS ในขณะที่กล้อง PowerShot V1 จะมีพัดลมระบายความร้อนที่ทำหน้าที่กระจายความร้อนสะสม
จากตัวเลขอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาในการบันทึกจะแตกต่างกันไปตามแหล่งจ่ายไฟ
ระยะเวลาในการบันทึกแบบต่อเนื่องเมื่อใช้แหล่งจ่ายไฟภายนอก (โดยประมาณ)
R50 V*1 | V1*2 | |
FHD 120p/100p | สูงสุด 1 ชม. | ไม่มีข้อมูล |
4K 30p/25p | สูงสุด 2 ชม. | มากกว่า 2 ชม. |
4K 60p (แบบครอปภาพ) | สูงสุด 2 ชม. | มากกว่า 2 ชม. |
ระยะเวลาใช้งานสูงสุด เมื่อใช้แบตเตอรี่ LP-E17 (โดยประมาณ)
R50 V*3 | V1*3 | |
4K 30p/25p | 1 ชม. 10 นาที | 1 ชม. 10 นาที |
FHD 30p/25p | 2 ชม. 20 นาที (สูงสุด 120 นาทีต่อการถ่ายหนึ่งครั้ง) |
1 ชม. 25 นาที |
*1: อุณหภูมิแวดล้อม: 23°C / การบันทึกบนหน้าจอ/ RF50mm F1.8 STM/ การบันทึกในการ์ด/ Wi-Fi: ไม่ใช้/ แหล่งจ่ายไฟ: DR-E18+AC-E6N โดยไม่มีไฟจาก USB
*2: อุณหภูมิแวดล้อม: 30°C/ การถ่ายผ่านมอนิเตอร์/ Wi-Fi: ไม่ใช้/ จ่ายไฟผ่าน USB-C
*3: อุณหภูมิแวดล้อม: 23°C / Movie Servo AF: ปิดใช้งาน
6. โหมดสร้างสรรค์และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก
6. โหมดสร้างสรรค์และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก
โหมดที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานและคุณสมบัติที่ช่วยอำนวยความสะดวก
ในขณะที่กล้องทั้งสองรุ่นมีฟิลเตอร์สี 14 แบบที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนเปลี่ยนโทนสีและอารมณ์ของวิดีโอได้อย่างง่ายดาย แต่ฟังก์ชั่นนี้จะสามารถใช้งานได้ในการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเมื่อใช้กล้อง EOS R50 V ส่วน PowerShot V1 จะใช้ได้กับวิดีโอเท่านั้น
และ EOS R50 V ยังมีโหมดใหม่ที่โดดเด่นอีกสองโหมดได้แก่
- โหมดการบันทึกแบบสโลและฟาสต์โมชัน (S&F) จะช่วยให้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบสโลและฟาสต์โมชันได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้สามารถเลือกได้ทั้งอัตราเฟรมที่บันทึกและความเร็วในการเล่นวิดีโอ
- โหมดมุมมองแบบภาพยนตร์จะเปลี่ยนอัตราส่วนภาพและอัตราเฟรมเป็น 2.35:1 และ 25p/23.98p ในสไตล์ภาพยนตร์ และสามารถใช้ร่วมกับฟิลเตอร์สีเพื่อสร้างภาพเคลื่อนไหวที่ดูราวกับภาพยนตร์ได้โดยอัตโนมัติ
ส่วนกล้อง PowerShot V1 จะมีฟิลเตอร์ ND แบบ 3 สต็อปในตัว ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันการเปิดรับแสงมากเกินไปขณะบันทึกวิดีโอในสภาวะที่มีแสงจ้า นอกจากนี้ยังมีโหมด IS ติดตามตัวแบบรุ่นใหม่จาก Canon ที่จะพิจารณาตำแหน่งของตัวแบบด้วยเมื่อครอปภาพขณะใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว
โหมดสร้างสรรค์/อำนวยความสะดวกที่กล้องทั้งสองรุ่นมีเหมือนกันได้แก่:
- ภาพเคลื่อนไหวแบบไทม์แลปส์
- ภาพเคลื่อนไหวแบบ HDR PQ
- ฟิลเตอร์สร้างสรรค์
- ภาพเคลื่อนไหวแบบผิวเรียบเนียน
- ภาพเคลื่อนไหวสำหรับการสาธิตแบบโคลสอัพ
- การซ้อนโฟกัส (ภาพนิ่ง)
สำหรับครีเอเตอร์ระดับสูง
กล้องทั้งสองรุ่นเป็นผู้ช่วยครีเอเตอร์ระดับสูงได้เป็นอย่างดีด้วยคุณสมบัติอย่างการบันทึก Canon Log 3 และการบันทึกแบบ 10 บิต 4:2:2
อย่างไรก็ตาม กล้อง EOS R50 V จะมีคุณสมบัติที่รองรับขั้นตอนการทำงานระดับสูงมากกว่าด้วยคุณสมบัติที่สามารถผสานรวมเข้ากับระบบ Cinema EOS ได้ เช่น
- การบันทึกในรูปแบบ XF-AVC S และ XF-HEVC S ตามมาตรฐานวงการ
- รองรับ LUT (ตาราง Look-up) และรูปภาพแบบกำหนดเอง
นอกจากนี้ ผู้ใช้ EOS R50 V ยังมีตัวเลือกในการบันทึกวิดีโอ Full HD 120p แบบมีเสียงด้วย วิดีโอเหล่านี้จะเล่นที่ความเร็ว 120 fps และสามารถทำให้ช้าลงได้ในขั้นตอนโพสต์โปรดักชันเพื่อสร้างสรรค์วิดีโอสโลโมชันที่มีเสียงน่าประทับใจ
สามารถใช้ฟิลเตอร์สี 14 แบบได้ในโหมดวิดีโอของกล้อง PowerShot V1 และทั้งโหมดภาพนิ่งและวิดีโอในกล้อง EOS R50 V
7. เสียง
EOS R50 V: เสียงที่มีลักษณะซับซ้อน
กล้อง EOS R50 V จะให้การบันทึกเสียงที่ล้ำสมัยกว่า ระบบจะบันทึกช่วงไดนามิกเรนจ์ 24 บิตที่กว้างกว่าและให้เสียงที่คมชัดยิ่งขึ้นด้วยระบบลดเสียงรบกวนที่ใช้ไมโครโฟน 3 ตัวซึ่งสามารถลดเสียงขับเคลื่อนอันไม่พึงประสงค์จากกล้องได้ คุณสามารถบันทึกเสียงได้สูงสุดจาก 4 แหล่งแยกกัน ซึ่งจะช่วยให้ควบคุมการปรับแต่งเสียงได้ดียิ่งขึ้น จึงเหมาะมากหากคุณต้องการระบบเสียงที่สมจริงและมีความซับซ้อน
PowerShot V1: เสียงกลางแจ้งที่คมชัด
แม้ความสามารถในการบันทึกเสียง 16 บิต 2 ช่องของกล้อง PowerShot V1 จะเรียบง่ายกว่า แต่ก็เพียงพอสำหรับการถ่ายวล็อกและทำคอนเทนต์วิดีโอทั่วไป ที่กันลมที่มีมาให้ในชุดจะช่วยให้เสียงคมชัดยิ่งขึ้นขณะถ่ายทำกลางแจ้งโดยใช้ไมโครโฟนในตัว
ทั้ง EOS R50 V และ PowerShot V1 บันทึกเสียงในรูปแบบ LPCM (linear pulse code modulation) ที่ไม่มีการบีบอัดและสูญเสียข้อมูล
8. โฟกัสอัตโนมัติ
กล้องทั้งสองรุ่นมีระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) Dual Pixel CMOS AF II ที่ใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อช่วยในการตรวจจับและติดตามตัวแบบ
เวอร์ชันในกล้อง EOS R50 V จะมีประสิทธิภาพและสามารถปรับแต่งได้มากกว่าด้วยตัวแบบที่ตรวจจับได้ง่ายกว่า และโหมด Register People Priority ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเน้นตัวคนขณะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอในฉากที่มีคนเป็นจำนวนมาก
“Dual Pixel CMOS AF II สำหรับ PowerShot” ของกล้อง PowerShot V1 คือเวอร์ชันที่นำมาดัดแปลงให้เรียบง่ายขึ้นสำหรับกล้องคอมแพค คุณสมบัตินี้มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการถ่ายวล็อก ทำคอนเทนต์ และการถ่ายภาพท่องเที่ยวส่วนใหญ่
ความแตกต่างที่สำคัญของระบบ AF
R50 V | V1 | |
โหมดพื้นที่ AF | โหมดพื้นที่ AF 7 โหมด (Spot/ จุดเดียว/ ขยายพื้นที่ AF (5 จุด)/ ขยายพื้นที่ AF (9 จุด)/ โซน AF แบบปรับได้ x 3/ AF ทั่วพื้นที่) |
โหมดพื้นที่ AF 5 โหมด (Spot/ จุดเดียว/ โซน AF แบบปรับได้ x 3/ AF ทั่วพื้นที่) |
ตัวแบบที่ตรวจจับ |
|
|
สูงสุด พื้นที่ครอบคลุม AF | 100% x 100% (อาจแตกต่างกันไปในเลนส์แต่ละรุ่น) |
90% x 90% |
Register People Priority | มี | ไม่มี |
Focus Guide แบบแมนนวล | มี | ไม่มี |
กล้อง PowerShot V1 สามารถโฟกัสอัตโนมัติได้ครอบคลุม 90% x 90% ของพื้นที่ภาพเทียบกับ 100% x 100% สำหรับกล้อง EOS R50 V
9. ขนาดเซนเซอร์
เซนเซอร์แบบ APS-C ของกล้อง EOS R50 V จะมีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์ของ PowerShot V1 ประมาณ 40% ทำให้มีข้อได้เปรียบเมื่อต้องถ่ายภาพในฉากที่มีแสงน้อย แต่เซนเซอร์ทั้งสองมีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์แบบ 1.0 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมและกล้องคอมแพคหลายรุ่นมาก
10. การถ่ายภาพนิ่ง
กล้องทั้งสองมีคุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่งที่เหมือนกันมากมาย แต่มีความแตกต่างหลักๆ 4 ข้อ ได้แก่:
i) โฟกัสอัตโนมัติ
ดังที่ได้กล่าวไว้ใน ข้อ 8. EOS R50 V จะมีคุณสมบัติ AF มากกว่าและมีพื้นที่ครอบคลุม AF มากกว่า
ii) ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่อง
กล้อง PowerShot V1 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วกว่า
ความเร็วในการถ่ายต่อเนื่องโดยประมาณ | R50 V | V1 |
ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ | 15 fps | 30 fps |
ชัตเตอร์กล (V1)/ ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก (R50 V) |
12 fps | 15 fps |
iii) ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด
PowerShot V1 มีความเร็วชัตเตอร์สูงสุดมากกว่าในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ แต่หากไม่ใช้โหมดอิเล็กทรอนิกส์ ความเร็วจะเป็นตรงข้าม
R50 V | V1 | |
ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ | 1/8000 วินาที | 1/16,000 วินาที* |
ชัตเตอร์กล (V1)/ ม่านชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ชุดแรก (R50 V) |
1/4000 วินาที | 1/2000 วินาที |
* ในโหมด Tv หรือ M เท่านั้น ในโหมด P หรือ Av หรือขณะซ้อนโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดจะอยู่ที่ 1/8000 วินาที
iv) ความสามารถในการเข้าถึงโหมดถ่ายภาพนิ่ง
ดังที่กล่าวไว้ใน ข้อ 3 สำหรับกล้อง EOS R50 V จะสามารถเปลี่ยนโหมดการเปิดรับแสงในการถ่ายภาพนิ่งได้จากเมนูบนหน้าจอสัมผัสเท่านั้นเนื่องจากการออกแบบที่เน้นถ่ายวิดีโอเป็นหลักของกล้อง
สรุป: ควรซื้อกล้องรุ่นไหนดี
EOS R50 V: ความเป็นได้ในการสร้างสรรค์ขั้นสูงสำหรับประสบการณ์ทุกระดับ
กล้อง EOS R50 V ที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติมากมายเพื่อการถ่ายวิดีโอคือการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับครีเอเตอร์ผู้สร้างคอนเทนต์วิดีโอที่มีเป้าหมายทุกคนไม่ว่าจะมีประสบการณ์ระดับใด กล้องรุ่นนี้ผสมผสานโหมดสร้างสรรค์ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้ากับฟังก์ชั่นระดับสูงที่คล้ายกับระบบ Cinema EOS จึงเหมาะสำหรับการใช้งานของทั้งผู้ใช้กล้องมือใหม่และผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีประสบการณ์สูงกว่า
PowerShot V1: สมดุลแห่งการควบคุม ความสะดวกสบาย และความเรียบง่าย
PowerShot V1 เป็นกล้องออลอินวันครบเครื่องที่ใช้งานสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการติดตั้งที่เรียบง่ายแต่ยังคงต้องการประสิทธิภาพและการควบคุมที่สามารถปรับแต่งเองได้